เช้าวันที่ 16 มกราคม 2552 วันนี้วันเกิดผมครับ ผมคือคนธรรมดาคนหนึ่ง แต่สำหรับผมวันนี้มีเรื่องไม่ธรรมดามากมายเกิดขึ้นกับผม วันนี้วันดีครับ ทุกอย่างเริ่มต้นไปด้วยดี ผมไปทำธุระสำคัญที่จะเปลี่ยนบางอย่างในชีวิต ผมไปเปลี่ยนชื่อครับ และวันนี้ผมมีเพื่อนที่ดีที่สุดไปกับผมด้วย เรามีโปรแกรมว่า พอผมเปลี่ยนชื่อและทำทุกอย่างเสร็จ เราจะไปพบกับคนอีกกลุ่มหนึ่งแล้วจะไปราชบุรีกัน ผมทำธุระเสร็จใกล้จะเที่ยงแล้วครับ พร้อมกับได้ชื่อใหม่ว่า "สิริเชษฐ์" ครับ
แล้วผมก็ขับรถตามไปพบกับพี่อีกกลุ่มหนึ่งที่นครปฐม เราไปเจอกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน นครปฐม พอทานอาหารกลางวันเสร็จเราก็เริมเดินทางไปราชบุรีเพื่อจะไปพบกับ พ่อปู่ฤาษีสุทโธ ผมก็ไม่ทราบว่าท่านเป็นใคร และมีอะไรพิเศษ แต่ในการเดินทางครั้งนี้มีอีกคนหนึ่งที่ผมว่าเป็นคนที่น่าสนใจครับ คุณลุงเชาวเรศน์ ผมพึ่งได้พบท่านเป็นครั้งที่สอง ครั้งแรกก็ไม่ได้มีการสนทนาอะไรกันมากครับ เพราะผมเป็นคนพูดน้อย คุณลุงเป็นเพชฌฆาตคนสุดท้ายของประเทศครับ ลุงเป็นคนที่ดูมีเมตตามากครับ คุณลุงมากับภรรยาครับ ป้าที่น่ารักอีกคน เราขับรถไปกันสองคันครับ รถผมและรถของพี่อีกคนครับ เป็นพี่ของเพื่อนสนิทผมครับ
เราเดินทางประมาณเกือบชั่วโมงก็ถึงที่แห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่อยู่ของ พ่อปูฤาษี ในบ้านโป่ง ราชบุรี พ่อปู่ดูเป็นคนเรียบง่ายไมเหมือนคนทรงเจ้า และก็ใจดีด้วย ครับเราก็ไดมีโอกาสได้นั่งคุยและพี่สาวเพื่อนผม ซึ่งมีความรู้ และเชี่ยวชาญด้านโหราศาสตร์ยูเรเนียนก็ได้รับความเมตตาจากปู่เพื่อทำการเปิดดวงชะตา บรรยาการการทานดวงของพ่อปู่เริ่มขึ้นจากการทายพื้นดวงก่อน ซึ่งเรียกว่า เป็นการตรวจดวงชะตาของเจ้าชะตา ระหว่างนั้น ปู่ก็มีผลตอบรับว่า ถูกต้อง และเป็นอย่างที่ผู้ทำนายได้ทายไป รายละเอียดผมไม่ขอลงลึกอะไรมาก เพียงแต่อยากจะบอกว่า “ผมตะลึง กับโหราศาสตร์ยูเรเนียน และต้องบอกว่า ของจริง!!!” เพราะเป็นศาสตร์ที่ไม่โกหก สามารถตรวจสอบได้ มีเหตุและผลครับ
และในวันนี้ พ่อปู่ฤาษี ผู้ซึ่งเราทราบกันว่า อาจจะเกิดมาหลายพบ หลายชาติ ได้ศึกษาเหล่าเรียนวิชาต่าง ๆ มากมายทั้งทางการแพทย์ที่พวกเราเป็นที่รู้จักกันดี หรือวิชาตรวจดวงชะตาที่ใครต่อใครต่างยอมรับ สังเกตุได้จากไม่ว่าจะเป็นหมอดูที่ไหน ๆ ก็ต้องมีรูปพ่อปู่ฤาษีตั้งบูชา และในวันนั้น พ่อปู่ฤาษีสุทโธ ถึงกับเอ่ยปากว่า โหราศาสตร์ยูเรเนียนเป็นศาสตร์ที่น่าศึกษา
เนื่องในวันนี้ เป็นวันพิเศษของผม ทำให้ผมแตกต่างจากเพื่อน ๆ ที่ร่วมเดินทางไปด้วย ผมจึงมีโอกาสได้ตรวจดวงของผม และสนทนากับพ่อปู่ด้วยครับ รายละเอียดไม่มีอะไรมากมาย ผมก็สอบถามในเรื่องทั่วไปของคนทั่วไปที่ต้องการอยากจะรู้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องเงิน และเรื่องสุขภาพ พอจบการสนทนา คุณลุงเชาวเรศน์ ก็สร้างความประหลาดใจ หรือภาษาอังกฤษเค้าเรียกกันว่า Surprise นะครับ คุณลุงก็บอกผมว่าจะบูชาของศักสิทธิ์ให้หนึ่งชิ้นให้เป็นของขวัญวันเกิดผมครับ ผมดีใจและก็ประทับใจมาก ๆ ครับ ผมพึ่งเจอคุณลุงเป็นครั้งที่สองเองและก็ไม่ค่อยได้คุยกันมากเลยครับ ยอมรับเลยครับ ลุงได้ใจผมไปแล้ว คุณลุงเหมือนญาตผู้ใหญ่ที่เอ็นดูหลาน ๆ ไม่โหดเหมือนอาชีพที่เคยประกอบ (ตามทัศนะคติของคนทั่วไปนะครับ ไม่ใช่ของผม-เบรคดัง เอี๊ยด!! กลัวจะเรียกของคืน)
และผมก็ได้ไปเลือกหินมาหนึ่งก้อนจากพานของพ่อปู ซึ่งหินมีลักษณะไม่แตกต่างจากหินทั่วไป แต่ที่น่าสงสัยว่ามันโดนจัดเรียงอยู่ในพานอย่างดี พ่อปูบอกให้อธิษฐาน ผมไม่ได้อธิษฐานขออะไรมากมาย เพียงแค่ก็คิดว่าผมเหมาะกับสิ่งใดที่ควรจะได้ขอให้ได้สิ่งนั้น แต่ในใจลึก ๆ ผมก็คิดว่า ทำไมให้หินผม แต่ก็มีคำถามจากด้านหลัง ว่ามองดูที่หินสิว่า มีรอยอะไรรึเปล่า ก่อนที่ลูกศิษย์พ่อปู่จะใช้ฆ้อนทุบลงบนหิน พอทุบหินออก มาผมก็พบแก้วสีชมพู รูปวงลี ไม่ทราบเหมือนกันว่ามันเข้าไปอยู่ในหินได้อย่างไรแต่มันเหมือนได้มีการเจียรนัยมาแล้ว ถือเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ จากนั้นผมก็ได้ทราบว่า เขาเรียกว่า เพชรพญานาค ครับผมเป็นคนเดียวที่ได้ในวันนั้น มีหลายคนที่เดินทางมาพร้อมกันแอบเสียใจ และอยากได้เหมือนกับผม พ่อปูบอกว่าสีนี้เกี่ยวกับความรัก เพราะเป็นสีชมพู คณะต้องเดินทางต่ออีก เราก็ลาพ่อปูออกมา เราแวะไปปล่อยปลา แล้วกินข้าวร่วมกันก่อนแยกย้ายกันครับ

พอผมถึงบ้าน ผมมีความเหนื่อยล้าจากการเดินทางทั้งวัน แต่ผมก็รีบหาขอมูลเกี่ยวกับเพชรพญานาค ว่าคืออะไร แล้วผมก็พบข้อมูลมากมายเกี่ยวกับความพิเศษสิ่งนี้ วันนี้ เป็นอีกหนึ่งวันสำหรับการเริ่มต้นอะไรใหม่ ๆ ในชีวิตของผมครับ เป็นวันที่ผมได้ชื่อใหม่ ได้ของดี และได้รับน้ำใจจากผู้ใหญ่ที่ทำให้ผมประทับใจ มันเป็นวันที่มีแต่ความทรงจำที่ดีจริง ๆ ครับ ผมขอขอบคุณทุกสิ่ง ทุกอย่างที่ทำให้ผมมีความสุขในวันเกิดของผม
จากคุณ เฉาก๋วย / 31 มกราคม 2552 |